1.เมื่อใช้งานเครื่องปรับอากาศครั้งแรก คุณจะต้องอ่านคู่มือการใช้งานอย่างละเอียด และใช้งานเครื่องปรับอากาศตามวิธีการที่ระบุไว้ข้างต้น
2.ตั้งค่าอุณหภูมิที่เหมาะสม: โดยทั่วไปนั้น คุณควรตั้งค่าอุณหภูมิของครื่องปรับอากาศเอาไว้ที่ 26℃ - 27℃ ซึ่งจะเหมาะสมมากกว่าสำหรับความรู้สึกของผู้ใช้เนื่องจากในปัจจุบัน
ระบบปรับอากาศมีฟังก์ชัน Economic Sleep (การประหยัดยามคุณหลับ) ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ดีกว่าในการใช้ฟังก์ชันนี้ก่อนที่คุณจะเข้านอน เพื่อให้แน่ใจได้ว่าคุณจะไม่รู้สึกหนาวเกินไปตอนที่คุณหลับและตื่นนอน;
3.การเลือกมุมของช่องงลมที่เหมาะสม : พยายามหลีกเลี่ยงการหันช่องลมออกไปยังร่างกาย โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป่าตรงลมเย็นไปยังผู้ที่กำลังนอนหลับเพราะจะทำให้ป่วยได้ง่าย. ในปัจจุบัน ฟังก์ชันการจ่ายลมอัจฉริยะ แบบสองทางของเครื่องปรับอากาศสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ เช่น เมื่ออากาศร้อน มุมของเครื่องปรับอากาศจะหันหน้าลง เป็นต้น;
4.ใช้อุปกรณ์ตั้งเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อคุณกำลังจะเข้านอนหรือออกไปข้างนอก คุณสามารถใช้อุปกรณ์ตั้งเวลาเพื่อให้เครื่องปรับอากาศทำงานเฉพาะในเวลาที่จำเป็นได้เพื่อประหยัดไฟและเวลา
5.ทำความสะอาดตะแกรงไส้กรองอากาศเป็นประจำ หากตะแกรงไส้กรองอากาศอุดตัน ประสิทธิภาพการทำงานจะลดลง่งผลให้ค่าไฟสูงขึ้น คุณควรทำความสะอาดตะแกรงไส้กรองอากาศทุกๆ15วัน;
6. เมื่อมีการเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ ห้ามปล่อยให้แสงแดดและลมร้อนเข้าห้อง แนะนำให้คุณใช้ม่านหรือมู่ลี่ในการบดบังแสงแดด ในขณะเดียวกัน หลังจากที่เปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศแล้ว พยายามเปิดประตูและหน้าต่างให้น้อยลงเพื่อลดการสูญเสียประสิทธิภาพการในทำความเย็นและเพื่อประหยัดไฟ;
7.ห้ามปิดกั้นช่องลมเข้าและช่องลมออกของเครื่องปรับอากาศมิเช่นนั้น ประสิทธิภาพการทำความเย็นและการทำความร้อนจะลดลง ทำให้เกิดการเสียเปล่าของพลังงาน และทำส่งผลอย่างรุนแรงให้เครื่องปรับอากาศไม่สามารถทำงานตามปกติได้;
8.การเปิดเครื่องปรับอากาศเฉพาะเมื่อจำเป็น ไม่เพียงแต่จะทำให้เครื่องปรับอากาศมีการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้นแต่ยังช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย;
9.เมื่อเริ่มต้นการทำงานเครื่องปรับอากาศ ให้คุณเปิดการทำความร้อนในระดับสูงสุด หากเครื่องปรับอากาศของคุณไม่มีฟังก์ชันระดับแรงสูงสุด แนะนำให้คุณเปิดลมแรง เมื่อได้อุณหภูมิที่เหมาะสม ให้คุณเปลี่ยนการตั้งค่าเป็นระดับกลางหรือต่ำเพื่อลดการใช้พลังงานและการเกิดเสียงดัง;
10.เวลาทำงานของเครื่องปรับอากาศในแต่ละครั้งควรจะมากกว่า 3 นาทีและไม่สามารถเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศได้อย่างต่อเนื่อง;
11.เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศคุณควรกักเก็บอากาศใหม่ในปริมาณหนึ่งไว้ในร่มห้องเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้คนได้รับผลกระทบจาก "โรคเกี่ยวกับการปรับอากาศ" หากเครื่องปรับอากาศไม่มีฟังก์ชันการแลกเปลี่ยนอากาศ คุณสามารถแง้มประตูหรือหน้าต่างไว้เล็กน้อย้เพื่อให้อากาศใหม่สามารถแทรกเข้ามาได้;
12.เมื่อเครื่องปรับอากาศภายในกำลังทำงานอยู่ กรุณาอย่าแหย่นิ้วมือหรือไม้เข้าไปในช่องลมออก หากพัดลมหมุนที่ความเร็วสูง อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บได้;
13.เครื่องปรับอากาศควรใช้เต้าเสียบไฟแบบพิเศษ ห้ามเชื่อมต่อแหล่งจ่ายไฟเข้ากับเต้าเสียบกลาง และห้ามใช้ปลั๊กไฟพ่วง หรือใช้เต้าเสียบร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ซึ่งอาจจะทำให้สายไฟไหม้หรืออาจก่อให้เกิดความร้อน ไฟดูด หรือไฟไหม้ได้ ;
14.ห้ามดัดแปลงหรือทำให้สายไฟชำรุดเสียหายซึ่งอาจก่อให้เกิดไฟูด ความร้อนหรือไฟไหม้ได้;
15.กรุณาเปิดและปิดเครื่องปรับอากาศอย่างถูกต้องตามวิธีการที่ระบุไว้ในคู่มือ ห้ามใช้วิธีการแหย่หรือการดึงสายไฟในการเปิด-ปิดการทำงานของเครื่องปรับอากาศนอาจก่อให้เกิดไฟฟ้าดูดหรืออุบัติเหตุไฟไหม้ได้;
16.เมื่อไม่มีการใช้งานเครื่องปรับอากาศในบางฤดูกาล นอกเหนือจากการทำความสะอาดตะแกรงไส้กรองอากาศแล้ว คุณอาจให้ช่างมืออาชีพมาตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมด การทำความสะอาดอุปกรณ์ระบายไม่เพียงแต่จะกำจัดอันตรายที่ซ่อนอยู่ของมลภาวะและทำให้อากาศสะอาดเท่านั้นแต่ยังช่วยเพิ่มทำให้ประสิทธิภาพการปรับอากาศให้ดีขึ้น ประหยัดไฟฟ้า ประหยัดพลังงาน และเพิ่มอายุการใช้งานอีกด้วย
17.เมื่อไม่ได้ใช้งานเครื่องปรับอากาศในบางฤดูกาล คุณจะต้องดึงปลั๊กไฟของเครื่องปรับอากาศและเอาถ่านในรีโมทคอนโทรลออกเพื่อป้องกันการชำรุดเสียหายโดยไม่เตั้งใจ หลังจากที่ทำความสะอาดและทำให้คอยล์เย็นและคอยล์ร้อนแห้งแล้ว คุณจะต้องครอบฝาครอบเพื่อป้องกันด้วย;
18.เมื่อใช้งานเครื่องปรับอากาศอีกครั้งในฤดูกาลใหม่ คุณจะต้องถอดฝาครอบป้องกันของอุปกรณ์ในร่มออก และถอดที่กำบังใกล้กับอุปกรณ์กลางแจ้งออกเพื่อยืนยันสถานะของไฟฟ้าของถ่านในรีโมทคอนโทรล จากนั้นจึงทดสอบการทำงานเพื่อตรวจสอบว่าการทำงานเป็นปกติหรือไม่.